งานนี้จัดในรูปแบบงาน unconference คร่าว ๆ ก็คืองานทีุ่ทุกคนเป็นวิทยากร
มารวม ๆ กัน แล้วเขียนหัวข้อที่ตัวเองจะพูดแปะไว้ แล้วให้มาโหวตกันว่าอยากฟังของใครบ้าง
มารอบนี้ก็เป็นเรื่อง ของเกี่ยวกับ การอ่าน
ได้แลกเปลี่ยน ถกเถียง ฟังความเห็นของคนอื่น เห็นความคิดแปลก ๆ ใหม่ ๆ
ทั้งสนุกทั้งน่าสนใจ ได้มีโอกาสพูดคุยแลกเปลี่ยนกับคนที่มีความคิดเจ๋ง ๆ
ในเรื่องที่คิดไม่ถึง หรือเรื่องธรรมดา ๆ ในมุมมองของคนอื่น
ตื่นเต้นดีแฮะ ... อยากรู้ตลอดว่าจะได้ฟังเรื่องอะไรบ้าง
อีกอย่างที่ดีมาก ๆ คือ ตอนสมัครมาทุกคนเป็นผู้พูด ทำให้กล้า ที่จะพูดเสนอความเห็นของตัวเอง
และที่สำคัญทุกคนต้องเป็นผู้ฟังด้วย เวลาเราพูดก็จะมีคนตั้งใจฟัง
แล้วก็ถาม ถก เถียง ด้วยความเห็นหลากหลาย
บางประเด็นเริ่มด้วยเรื่องง่าย ๆ แต่แตกประเด็นย่อย ๆ ออกไปจนกลายเป็นเรื่องสนุกไปได้ก็มี
นักพูดก็มีตั้งแต่มีเก๋า จนถึงมือใหม่ แม้แต่คนที่เอามาแต่หัวข้อ แต่ไม่รู้จะพูดเรื่องอะไรก็ยังมี
มาถึง ก็ช่วย ๆ กันสร้างประเด็นต่อเติมหัวข้อกันออกไป ... ขำ ๆ
งานนี้แบ่งเป็นสามห้อง ห้องละ 8 session (มั๊ง แต่หัวข้อเยอะกันมาก ๆ)
อยากจะเข้าฟังมันทุกห้องทุก session เลย แต่ก็ต้องเลือกเรื่องที่น่าสนใจที่สุดในช่วงนั้น
งานนี้มีเรื่องที่เราคิดว่า น่าสนใจมาก ๆ อยู่ 2 เรื่อง
อันแรกเป็นหัวข้อ ความโรแมนติกของสามก๊ก เนื้อหาหลักคนพูดก็นำเสนอได้ดีมาก ๆ
ทำการบ้านมาดีทีเดียว แต่ที่น่าสนใจคือการเปรียบเทียบสามก๊ก กับการเืมืองเราในตอนนี้
โจโฉเก่งกาจ มากความสามารถ แต่เพื่อเป้าหมาย บางครั้งก็มองข้ามคุณธรรม
คนจะดีจะเลวไม่สนใจ ถ้าเก่งและทำงานได้ เค้าใช้หมด
เล่าปี่ and the gang ใช้คุณธรรมกับพลังของประชาชน ในการสร้างฐานกำลัง
ลุกไล่ ตลอด แต่กำลังน้อย อณาจักรเล็ก ได้แต่คอยตอด ทำควาามเสียหาย
ซุนกวน ประวัติศาสตร์ยาวนาน ฐานกำลังแข็งแกร่ง แต่่เยิ่นเย้อชักช้า
ทำอะไรไม่ทันการ ไม่เด็ดขาด สุดท้ายเลยขึ้นเป็นหัวหลักไม่ได้ซักที
เอา เข้าใจเปรียเทียบแฮะ ว่ายังงี้ก็เห็นภาพขึ้นมาเลย
เรากำลังรอสุมาี้อี้อยู่ใช่มั๊ยเนี่ย ...5555
อีกเรื่องคือของอาจารย์โป้ง worst is better เนื้อหาและิวิธีการนำเสนอเข้มข้นจนผมไม่กล้าวิจารณ์ 555
ขอเอาข้อความที่เค้าเขียนไว้มาแปะ เลยละกันครับ
ขอเอาข้อความที่เค้าเขียนไว้มาแปะ เลยละกันครับ
"Worse is Better" in the Age of Mash-Ups
Yet again an analysis of Nico Nico Douga mash-up videos. Why are certain contents --- for examples, Touhou, Idolm@ster, Lucky Star, and certain songs --- are so popular? I argue that these contents are "generative." Because of their simplicity, eccentricity, and lack of depth, people feel encouraged to take them apart and recombine them with others. I will also draw parallels between generative contents and successful software systems. Why is C a lot more popular than Lisp? Why is the Internet so great despite being so stupid by design? Why do I like Python and Ruby more than Java? The answer is, I believe, three things: simplicity, usability, and extensibility.
Yet again an analysis of Nico Nico Douga mash-up videos. Why are certain contents --- for examples, Touhou, Idolm@ster, Lucky Star, and certain songs --- are so popular? I argue that these contents are "generative." Because of their simplicity, eccentricity, and lack of depth, people feel encouraged to take them apart and recombine them with others. I will also draw parallels between generative contents and successful software systems. Why is C a lot more popular than Lisp? Why is the Internet so great despite being so stupid by design? Why do I like Python and Ruby more than Java? The answer is, I believe, three things: simplicity, usability, and extensibility.
ทุก ๆ หัวข้อที่พูดมีการอัดไว้ เร็ว ๆ นี้คงมีคนเอาขึ้นมาให้ดูกัน ใครสนใจค่อยตามดูอีกทีที่เว็บเค้าละกันครับ
พูดถึงเรื่องคนอื่นไปแล้ว ก็เรื่องของเราบ้าง ... จริง ๆ แล้วเรื่องที่ผมเตรียมไป
เป็นเรื่องประมาณการดูจิตนี่แหละ เขียนชื่อหัวข้อไปว่า อ่าน"อารมณ์"
ตั้งใจไว้ว่า จะลองพูดแบบกับคนฟังหลายคนดู ว่าจะทำให้เค้ารู้สึกตัวขึ้นมาได้ซักคนรึเปล่า
แต่จะด้วยชื่อหัวข้อมันคลุมเคลือ รึยังไงก็ไม่รู้
ทีแรกผมนึกว่า หัวข้อที่ผมพูดจะไปอยู่กับ หัวข้อด้านศาสนา
เพราะมีคนเสนอ เรื่องอ่านลมหายใจ เรื่องพุทธ หรือเรื่องทำนองนี้อยู่
แต่ไป ๆ มา ๆ กลายเป็น หัวข้อของผม ไปรวมอยู่กับ เรื่องความรักซะงั้น ... 5555
ใน session นั้นเป็นการเอา 5 หัวข้อมาคุยพร้อมกัน
- รับมือผู้ชายเจ้าชู้
- art ตัวแม่
- ฤดูกับอารมณ์
- เมื่อไหร่ที่ผู้หญิงและผู้ชายจะเข้าใจกัน
- อ่าน "อารมณ์"
555 ตอนเห็นหัวข้อก็เลยมาวางแผนใหม่ ทำไงจะดึงเข้าประเด็นเราได้หละเนี่ย
ก็เลยให้ ทั้งผู้ชายทั้งผู้หญิง เค้าระบาย เรื่องแย่ๆ ของอีกฝ่ายกันออกมา
ก็สนุกดีนะ นาน ๆ ทีให้ผู้ชายกับผู้หญิงมาแชร์ความคิดของเพศตัวเองกันแบบนี้
เถียงๆ กันอยู่เกือบชั่วโมง จนจะหมดเวลา ... แต่เรายังไม่ได้เสนอไอเดียเราเลย
ก็เลยขอปิดประเด็น โดยเรานำเสนอ วิถีทางพุทธที่จะช่วยแก้ัปัญหาที่แต่ละคนพูดมา
เวลาน้อยไปหน่อย แต่ก็ถือว่าออกมาโอเคแหละครับ เอาไว้คราวหน้าจะไปแชร์กันใหม่
งานนี้สนุกมาก ๆ ได้คุยกับคนต่าง อาชีพ อายุ สถานะ บริบท สังคม ความคิด วัฒนธรรม
มาพูดคุยในเรื่อง เดียวกัน ด้วยมุมมอง ที่ทั้งเหมือนทั้งต่างกัน
ชอบ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ
อยากให้จัดอีกทีเร็ว ๆ แอบไปสมัครเป็น staff ช่วยงานในเว็บไว้แล้วด้วย ฮี่ๆ
ใครไม่เคยไปก็ลองไปกันดูนะครับ เชิญชวน ๆ
รึใครที่เราเจอในงาน ก็มาเม้นกันบ้างนะ แลกเปลี่ยนความเห็นกัน
ขอบคุณผู้จัดทำกับงานดี ๆ แบบนี้ครับ ขอบคุณนักอ่านทุกคนด้วย สนุกมาก ๆ เลย
1 ความคิดเห็น:
แล้วเจอกันใหม่ครับ! ;)
แสดงความคิดเห็น